The Crew 2 รถ เรือ ขับเครืองบิน มอเตอร์ไซค์ อย่างไหนก็ซิ่งข้ามอเมริกาได้
The Crew 2 ตลอดเวลากว่า 30 ชั่วโมง สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ที่น่าจดจำ แม้จะไม่ใช่จากเรื่องราวที่เข้มข้นในการสำรวจโลก Open World แต่จะมาจากความหลากหลายของยานพาหนะ และความสร้างสรรค์ของเส้นทางต่างๆ ที่ดูเกินจริง และไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็ยังสามารถให้ความบันเทิงแก่ผู้เล่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ในภาคสองนี้มีความแตกต่างจากภาพต้นฉบับ โดยจะเน้นไปที่พัฒนาการในการขับขี่ของผู้เล่น
ที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่มีกิจกรรมต่างๆ ให้เลือกเล่นมากมาย และการดำเนินเรื่องแบบไม่ได้เป็นเส้นตรง แต่ที่น่าเสียดายนั้นที่เรื่องราวอาชญากรรมอันเข้มข้นของภาคที่แล้วได้หายไป เปลี่ยนมาเป็นเทศกาลการแข่งขัน Motor Sport ที่มียานพาหนะหลายรูปแบบ
ตัวผู้เล่นเองจะเป็นนักแข่งมือใหม่ ที่พยายามไต่เต้าให้เป็น Superstar นั่นเองแม้ว่าจะดูธรรมดา และการเพิ่มระบบ Social Media และเพื่อให้ผู้เล่นได้ยอด Follow เยอะๆ ก็อาจจะไม่ได้เป็นตัวช่วยอะไรมากมาย แต่ด้านความหลากหลาย และจังหวะของตัวเกมนั้น ก็สามารถสร้างสีสัน
และความแตกต่างที่น่าประทับใจของการขับขี่ ในแบบArcade Racing ทั้งบนบก ในน้ำ และในอากาศ ซึ่งจุดนี้เองทำให้การเล่นดูบ้านบิ่นมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการขับรถกระโดดข้ามตึกร้าง ขับเรือลงจากเขื่อน หรือแม้แต่การเปลี่ยนจารการขี่มอเตอร์ไบค์ ไปเป็นเครื่องบินขณะลอยอยู่กลางอากาศ รวมไปถึง Nitro Boost การดริฟต์ และการเบิร์นยางแบบเวอร์ๆ ที่จะทำให้ผู้เล่นตื่นตาตื่นใจ
เนื่องจากตัวเกมที่เป็นแบบ Open World ผู้เล่นจึงจะสามารถพบเจอเหล่าผู้ท้าชิงต่างๆ ได้จากการวิ่งผ่านจุดที่กำหนดในแผนที่ จุดมุ่งหมายหลักของเกมคือ การให้ผู้เล่นได้สำรวจโลกกว้าง ในขณะที่ย้ายจากเควสท์หนึ่งไปยังอีกเควสท์หนึ่ง
ซึ่งอยู่ห่างกันค่อนข้างมาก รวมไปถึงจุด Interest Point ต่างๆ ก็กระจัดกระจายกันอยู่อีกด้วย ตัวเกมสามารถให้เราดู Activity Quest หลักๆ ที่มีประมาณ 120 Activities รวมไปถึง Skill Challenge ที่มีอยู่อย่างนับไม่ถ้วน ซึ่งนอกจากจะสามารถ Set Way Point หน้าเมนูได้แล้ว ยังสามารถเลือกเริ่มเควสท์ได้เลย แม้ว่าเราจะอยู่ตรงไหนของแผนที่ก็ตาม รวมไปถึงยังสามารถ Cancel ได้ เริ่มใหม่ได้เรื่อยๆ ตามความต้องการ
ความต่อเนื่องในการเล่นในแผนที่ขนาดใหญ่ สามารถทำได้อย่างน่าประทับใจ แทบจะไม่มีช่วงเวลาโหลด ทำให้การขับขี่ดูลื่นไหล และต่อเนื่องเป็นอย่างมาก และขณะที่อยู่ในช่วง Free Time ผู้เล่นก็สามารถที่จะเลือกเปลี่ยนยานพาหนะได้อย่างอิสระ
นอกจากนั้นยังสามารถเลือกยานพาหนะที่เราใช้อยู่บ่อยๆ ใส่ลงใน Shortcut ให้กับ Analog เพื่อให้เราสามารถเลือกเปลี่ยนแบบด่วนๆ ได้อย่างทันใจ ซึ่งจุดนี้ทำให้ตัวเกมสนุก และต่อเนื่องขึ้นมาก และสำหรับยานพาหนะต่างๆ ที่มีขายในเกม ผู้เล่นยังสามารถทดลองขับก่อนซื้อได้ และยานพายนะทั้ง 4 ชนิดก็มีความแตกต่างกันในการขับขี่ที่ทำออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เช่น รถแข่งแบบ Street รถแข่งระยะไกล รถแข่งแรลี่ มอเตอร์ไซด์วิบาก เครื่องบินผาดโผน เรือเร็ว รถแข่งกลาง Street และอื่นๆ โดยแต่ละชนิดก็ยังมีการแบ่งเป็นประเภท ย่อยลงไปอีก
ซึ่งส่วนนี้ทางทีมงานสามารถถ่ายทอดการขับขี่ยานพาหนะต่างๆ ที่แม้ว่าจะขาดความสมจริง แต่ก็ทำออกมาได้อย่างสนุกเลยทีเดียว มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละยานพาหนะ และเรียนรู้ได้ง่ายในสไตล์การขับขี่แบบ Arcade Racing
ขอบมูลจาก : https://www.ubisoft.com/en-US/studio/ivory-tower.aspx
จัดทำโดย : https://bowzu.com/